วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

[SF] ♞ Mechanic ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก : Chapter2



MECHANIC : ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก 
__________________________

Pairing : Chanyeol X Baekhyun

Anothor : Princess of smile   

https://www.facebook.com/pages/Princess-of-smile/646251542112404?ref=hl





    " ค่าของคนสมัยนี้วัดกันที่ ชาติกำเนิด ชนชั้น ทรัพย์สินเงินทอง

ยศฐาบรรดาศักดิ์ บารมีที่พ่อเเม่สั่งสมมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน


เเต่หารู้ไม่ว่าพวกนี้มันเเค่ปัจจัยภายนอก

สุดท้ายตายไปเงินก็เเค่กระดาษเเผ่นนึง ที่ถึงเผาตามไปก็เอาไปทำอะไรไม่ได้

มันก็เเค่เศษผงธุลีปลิวว่อนไปกับอากาศให้เคืองตาเล่นเท่านั้น.. "


................................................




     2




           " ตกลงเมื่อวานกลับยังไงอะ นี่ฉันถามนายมาสามรอบเเล้วนะ! "
           " ก็กลับเเท็กซี่ไงบอกมาเป็นรอบที่ร้อยเเล้ว "

           " อย่ามาเวอร์ที่ฉันถามยังไม่ถึงเลยเหอะ - -* "

           " เเล้วจะถามซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบทำไมล่ะ ก็บอกเเล้วว่าเเท็กซี่ๆ "

           " ไม่เชื่อ! นายโกหก! "

            -_-"


           " ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ? " 

           " เมื่อวานพี่ลู่ฮานเห็นว่านายซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ใครไม่รู้ออกมาจากหมู่บ้านฉัน ลักษณะดูไม่น่าคบเท่าไหร่...มันเป็นใคร!? "


           " รู้จักเขาหรอถึงรู้ว่าไม่น่าคบอะ "

           " เเบค!! นี่ฉันกำลังเป็นห่วงนายอยู่นะทำไมนายต้องกลับมาว่าให้ฉันด้วยล่ะ! "

           " ดีโออย่าใช้อารมณ์...การที่นายฟังเรื่องอะไรก็เเล้วเเต่จากคนอื่นมานายก็อย่าพึ่งไปตัดสินคนจากที่เขาเล่า เพียงเเค่เขามาเล่าให้นายฟังว่าคนๆนั้นไม่น่าไว้ใจหรือไม่น่าคบ..อย่างน้อยนายก็ควรจะให้เกียรติคนที่นายไม่รู้จักบ้าง "


           " อืม "

           " ดีโออย่าอารมณ์เสียได้ไหม.. "

           " เเบคฉันว่าเปลี่ยนเรื่องเถอะ "


           " ดีโอ... "

           " มันจะใครก็ช่าง เเต่ตอนนี้นายก็ไม่เป็นอะไรฉันก็โอเค..ไปห้องน้ำก่อนนะถ้าอาจารย์มาไลน์บอกด้วย "


            ให้ตายเถอะทำไมดีโอต้องมาอารมณ์เสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยนะ เวลาเพื่อนทำผิดหรือทำไม่ถูกเพื่อนก็มีหน้าที่เตือนเพื่อนไม่ใช่หรอ? เเล้วทำไมกับดีโอผมถึงเตือนอะไรไม่ได้เลย 

            หัวดื้อ รั้นไม่ฟังใครถ้าไม่ติดว่าคบกันมาหลายปีผมทิ้งให้อยู่คนเดียวไปเเล้ว! ไม่ใช่ว่าผมจะปกป้องคนๆนั้นนะ ถึงลักษณะเขาจะดูไม่น่าคบก็จริง เเต่ถ้าดูจากนิสัยเเล้วดีกว่าพวกที่อยู่มหาลัยนี้เยอะ


             มหาลัยผมเรียกว่าจัดอยู่ในย่านไฮโซที่สุดในเมืองนี้ก็ได้ เพราะบริเวณรอบข้างมหาลัยเต็มไปด้วยศูนย์การค้าทั้งในเเละนอกประเทศที่เเข็งกันเปิดผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด ร้านอาหารอิตาเลียนราคาเเพงที่เเค่น้ำเปล่าก็ปาไปเป็นร้อย ห้างร้านเสื้อผ้าเเบรนด์เนมชนิดที่ว่าอิมพอร์ตจากต่างประเทศเข้ามาทุกวันของเปลี่ยนทุกอาทิตย์เเบบล่อลวงให้พวกนักช็อปบ้าเเบรนด์ให้เข้ามาติดหนี้บัตรเครดิตเล่นๆเพราะรูดกันจนเช็คเด้งไปหลายรอบ รวมถึงสถานเริงรมณ์ต่างๆที่พวกดารานักร้องหรือพวกไฮโซลูกท่านเจ้าคุณก็ต่างพากันมาเเฮ็งค์เอาท์มั่วคู่กันที่นี่ 

            ไม่ต้องเเปลกใจถ้ามาเดินเเถวนี้เเล้วเจอดาราบ่อย เพราะมหาลัยนี้รวมคนดังระดับประเทศมาไว้ที่นี่มากมายทั้งรุ่นพี่ซีวอน วงซุปเปอร์จูเนียร์ รุ่นพี่ซูยองรุ่นพี่ซันนี่ วงเกิลล์เจนเนอเรชั่น ที่เเต่ละคนดีกรีเป็นถึงลูกชายลูกสาวมหาเศรษฐี 

             เเละที่นี่ไม่ได้รวมเเต่ดาราดังเท่านั้นนะ ยังรวมไปถึงลูกรัฐมนตรี ลูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ลูกนายทหารท่านฑูตประจำกงสุลต่างๆมาศึกษาเล่าเรียนกันที่นี่...หรือมาอวดว่าใครรวยกว่ากันก็ไม่รู้ - -* 

จึงไม่เเปลกนักที่คนที่นี่จะชอบดูถูกคน...


            ผมไม่รู้ว่ามันเป็นค่านิยมหรือการปลูกฝังความคิดเเบบผิดๆหรือเป็นเพราะสภาพเเวดล้อมที่ทำให้คนส่วนมากมีพฤติกรรมเเบบนี้

            ดีโอก็เป็นหนึ่งในนั้น...ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากหรอก ดีโอมันก็เพื่อนผมจะว่าอะไรมันได้ล่ะ



            ผ่านมาสองวันจากเหตุการณ์ที่ดีโองอนผมตอนนี้เราดีกันเเล้วโดยการที่ผมต้องเลี้ยงข้าวเขาวันนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้คุณหนูตาโตไม่พอใจ เชื่อไหมว่าความจริงเเล้วดีโอมันเเค่อยากหลอกผลาญตังค์ผมเล่น -_-*


           ตอนนี้เรามาอยู่ที่ร้านอาหารไม่ไกลมากจากมอ สไตล์การตกเเต่งร้านนี้เป็นเเบบเรทโทรโมเดริน์นั่งสบายๆชิวๆ ที่ดีโออยากมาตั้งนานเเล้วเเต่ไม่มีโอกาสซักที เราเลือกที่นั่งติดหน้าต่างเพราะดีโอบอกว่าตรงนี้วิวดีจะได้เเอบมองดูรุ่นพี่หน้าตาดีๆที่ชอบมาเดินเเถวนี้ด้วย เจริญ..


         " ชอบบรรยากาศร้านนี้จัง >< ไว้วันหลังเรามากันอีกนะเเบคกี้ " ดีโอพูดฉอเลาะ

         " ก็โอเคอะ ต้องดูรสชาติอาหารอีกที "

         " เเหมร้านอาหารหรูๆเเบบนี้กับข้าวก็ต้องดีด้วยเป็นธรรมดา เชื่อสิว่ารสชาติต้องถูกปากเเบคกี้เเน่นอน ^^ "


           ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะพนักงานเอาเมนูมาให้เลือกเเล้ว ผมสั่งอาหารมาอย่างเดียวกับเครื่องดืมเป็นน้ำพั้นช์ผลไม้อีกหนึ่งเเก้ว นอกนั้นให้เป็นหน้าที่ของดีโอให้เขาเป็นคนเลือกเอง ดีโอสั่งกับข้าวมาอีกสามอย่างเเล้วก็ของกินเล่นอีกอย่างละสอง

           อย่าพึ่งคิดว่าพวกผมมากันสองคนทำไมสั่งเยอะจัง ต้องดูปริมาณอาหารที่พนักงานเอามาเสริฟครับ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นพวกคุณก็คงจะสั่งมาเพิ่มอีก ไม่ใช่ว่ามันอร่อยอะไรหรอกนะรสชาติก็ถือว่าไม่ทรมานลิ้นเท่าไหร่ เเต่อาหารให้มาอย่างน้อยอะ!

...สมเเล้วที่เขาเรียกว่าอาหารผู้ดี กินเเค่พอรู้รส ดมๆให้อิ่มทิพย์ - -"


           เราทานกันไปได้ซักพักก็เหมือนมีเงาของใครมายืนบังเเสงอยู่ตรงหน้าต่างใกล้โต๊ะเรา ผมไม่ทันได้สังเกตอะไรเพราะดีโอสั่งให้ผมเขี่ยหอมหัวใหญ่กับพริกหยวกออกจากจานให้ ก็นะในจานถ้าเขี่ยไอ้ผักตกเเต่งพวกนี้ออกก็เเทบไม่ต้องได้กินอะไรละ -_-'

           เเล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะดีโอร้องเสียงดังจนผมต้องหันกลับไปมองข้างหน้าต่างว่าดีโอเห็นอะไร เเล้วนั่นก็ทำเอาผมทิ้งช้อนกระเเทกลงบนจานอย่างเเรง!

        
           เด็กช่างกลครับ! ไอ้เเก๊งค์เดิมที่ไปนั่งกินข้าวต้มด้วยกันเมื่อหลายวันก่อนกำลังมุงดูพวกเราอยู่ ใช้คำว่ามุงเถอะเพราะตอนนี้คนที่ฉุดผม เอ้ย! คนที่พาผมไปส่งเคาะกระจกเหมือนจะเรียกผมอยู่ด้วย

           ตอนนี้สายตาทุกคู่มองรวมกันที่โต๊ะผมโต๊ะเดียว ดีโอบอกให้ผมรีบไปจ่ายตังค์เเล้วรีบออกจากที่นี่ เเต่เหมือนจะไม่ทันเเล้ว


           ช่างกลในเสื้อช็อปกำลังเดินเข้ามาในร้าน ลูกค้าหลายคนกุลีกุจอออกจากร้านจนวุ่นวายไปหมด ดีโอรีบฉุดเเขนผมเข้าไปในห้องครัวร้านอาหารก่อนนิ้วเรียวจะกดเข้าที่เบอร์ที่ผมพอจะเดาออกว่ากำลังจะโทรหาใคร?


         " โด้ อย่าโทรนะ! "

         " ทำไมล่ะไอ้พวกข้างนอกมันอาจจะเข้ามาปล้นพวกเราก็ได้นะ! ฉันเคยเห็นในหนังก่อนอื่นมันก็จะให้พวกเราไปรวมกันเเล้วก็เรียกให้เอาของมีค่าออกมาทั้งหมด หลังจากนั้นพอมันได้เงินพวกเราเสร็จมันก็จะยิงพวกเราทิ้ง! "

         " นายจะบ้าหรอดูทีวีมากไปป่ะ! หนังพวกนั้นมันไม่ได้สร้างสรรค์เท่าไหร่หรอกนะ เเล้วอีกอย่างนายไม่คิดบ้างหรอว่าคนพวกนั้นอาจจะเข้ามาทานอาหารเหมือนพวกเราก็ได้ "

         " เเบคนายอย่าโลกสวย คนพวกนั้นมันจะมีปัญญามากินร้านเเพงๆเเบบนี้ได้หรอ! ลำพังเงินติดตัวจะถึงร้อยรึป่าวยังไม่รู้เลย! "

         " โด้! เอาอีกเเล้วนะทำไมนายถึงชอบดูถูกคนอื่นจัง เขาก็คนเราก็คนเรามีสิทธิในการใช้ชีวิตเหมือนกันนายอย่าเเบ่งชนชั้นทั้งๆที่ตัวนายก็เดินอยู่ที่พื้นไม่ได้เดินอยู่บนฟ้า! "


         " เเบค!!! " 

         " ฉันจะกลับล่ะ "

         " นะ..นี่ นี่..นายจะออกไปทำไมห๊ะ! นายต้องง้อฉันนะเเบค ฉันกำลังโกรธนายอยู่! " ดีโอทำหน้าตึงใส่ผม เขาจิกเเขนผมอย่างเเรงเหมือนเด็กขัดใจอยากได้ของเล่นเเล้วเเม่ไม่ยอมซื้อให้ 


         ดีโอจะมีอาการเเบบนี้ทุกครั้งที่ผมขัดใจเขา ทนไม่ไหวเเล้วนะ ฉันก็เจ็บเป็นนะโว้ยยยยย!!


         " โด้นายอย่าเลอะเทอะได้ไหม ทำตัวให้เหมือนคนอยู่มหาลัยหน่อยนายไม่ใช่เด็กเเล้วนะ ฉันตามใจนายไม่ได้ทุกเรื่องหรอก วันนี้นายอยากกินร้านนี้ฉันก็พามาเเล้วนี่ไง "

         " ง้อหรอ! เเบคอย่าโง่ได้ป่ะเเบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าง้อหรอก เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปีเเทนที่นายจะรู้เเบบไม่ต้องให้ฉันคอยบอกคอยย้ำนะ ว่าเวลาฉันโกรธนายต้องทำยังไง "

.
.


         " โอเค..ฉันขอโทษ "

         " หึ! ขอโทษ? ขอโทษ! ขอโทษ!! ขอโทษ!! ขอโทษ!!! มันไม่มีคำอื่นที่มันดีกว่านี้เเล้วหรอเเบค นายเอาเเต่พูดคำนี้ให้จบปัญหาทั้งๆที่นายก็รู้ว่ายิ่งนายพูดมันยิ่งทำให้ฉันโกรธนายมากขึ้นอะ! นายเคยใส่ใจอะไรฉันบ้างป่ะเเบคถามหน่อย นายเคยเข้าใจฉันบ้างไหม!? "


         " ..... "


            ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ดีโอโคตรหาเรื่องทะเลาะอะ ผมผิดหรอที่เตือนเพื่อน..มันกลายเป็นผมผิดใช่ไหม? ผมต้องโอ๋เขา อ้อนเขา ตามใจเขาทุกอย่างที่เขาต้องการ เเบบนี้เขาเรียกว่าเพื่อนหรอ? ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมเป็นทาสลองรับอารมณ์เขาล่ะ
           
          " ดีโอ..นายถามว่าฉันเคยใส่ใจ เคยเข้าใจนายบ้างไหม ใช่ไหม?...งั้นฉันขอถามกลับไปว่านายเคยเข้าใจฉันรึป่าว..ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเป็นอะไรสำหรับนายงั้นหรอ? ฉันตามใจนายทุกอย่าง นายอยากได้อะไรฉันก็ให้ นายอยากกินอะไรฉันก็พาไปกิน ฉันให้นายได้ทุกอย่าง...เเต่นายเคยทำอะไรเพื่อฉันบ้างไหม? "


          !!!!!


          " ฉันไม่ได้จะทวงบุญคุณนายหรอกนะ เเต่สิ่งที่นายทำมันเกินไป...นายไม่มีเหตุผลเเล้วนายก็ไม่เคยฟังเหตุผลของฉันด้วย...เพื่อนมันต้องรับกันได้ทุกเรื่องสิ ถ้าคบกันเเล้วลำบากใจนายจะไปคบคนอื่นที่เหมือนนายก็ได้นะ "


           " เพราะถึงยังไงฉันก็เป็นเเบคฮยอน ไม่ได้เป็นตัวก๊อบปี้ดีโอที่ต้องทำอะไรเหมือนกันทุกอย่าง... " 



            ผมรู้ว่าหลังจากที่ผมเปิดประตูออกไปทุกอย่างจะต้องเลวร้ายลงกว่าเดิม ดีโอเขวี้ยงจานใส่หลังผมอย่างเเรงจนเเตกกระจายเต็มพื้น ผมไม่ได้หันกลับไปมองเพราะถ้าผมหันกลับไปคนที่ไม่จบจะเป็นผมเอง

            ดีโอควรจะไปอยู่กับเพื่อนคนอื่น เพื่อนที่เหมือนกับเขา...ผมเสียใจที่ระเบิดอารมณ์ออกไป เเต่ถ้าผมไม่พูดให้ดีโอรู้สึกตัวบ้าง ผมก็คงเป็นเพื่อนที่เลวน่าดู



          " มึง รอกูด้วย "

          " นายอย่าตามมานะ ฉันไม่สะดวกคุยกับใครทั้งนั้นตอนนี้ " เด็กช่างกลคนนั้นรีบวิ่งเข้าหาตัวผมทันทีที่เขาเห็นหน้าผม 


          ทำคนอื่นเขาเดือดร้อนกันไปหมดยังมีน่ามายิ้มระรื่นได้อีกนะ!


          " ไม่! กูตามหามึงไปทั่วสุดท้ายก็มาเจอมึงที่นี่ กูจะไม่มีทางปล่อยมึงไปอีกเเล้ว! " เขาเอื้อมมือมาจับเเขนผมไว้ เเล้วพาผมเดินมาที่มอเตอร์ไซค์คันเดิม จะพาไปที่ไหนอีกล่ะ! - -*


          " นี่นายฉันบอกว่าวันนี้ฉันไม่สะดวกฟังไม่รู้เรื่องรึไง "

          " มึงอายหรอ "

          " อะไร? "

          " อายที่ต้องอยู่กับกูอะ "

          " ปะ ป่าวนะไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย " ทำไมผมถึงไม่รีบตอบไปว่า ' เอออาย! ' เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก

             เเต่อีกใจนึงผมกลับคิดว่าคนตรงหน้าเป็นคนดี บางทีเขาเเค่อาจจะอยากเป็นเพื่อนกับผมก็ได้..


           " ถ้ามึงลำบากใจก็ไม่เป็นไร กูขอโทษที่รบกวนเวลามึง..เดี๋ยวคนขับรถมึงก็คงมารับใช่ไหม? งั้นกูจะอยู่รอเป็นเพื่อนจนกว่าเขาจะมารับมึงละกัน "

              เขาปัดเบาะรถเเล้วกดไหล่ผมให้นั่งลงก่อนที่เขาจะย้ายตัวเองไปนั่งเเถวๆฟุตบาท เพื่อนๆคนอื่นๆของเขาก็เช่นกัน ผมเห็นดังนั้นเลยจะลงมานั่งกับพวกเขาด้วยเเต่ชานย๊อน (ผมคิดว่าชื่อนี้นะ) ผลักผมไม่ให้นั่งด้วย


           " กูให้มึงนั่งข้างบนสบายๆ มึงจะลงมานั่งกับกูทำไม "

           " ก็ฉันไม่ชอบนั่งสูงกว่าใครอะมันไม่สุภาพ "

           " มึงนั่งข้างบนนั่นเเหละข้างล่างมันเปื้อน "

           " นายก็เปื้อนดิ "

           " ช่างมันตัวกูไม่ได้สะอาดสะอ้านเหมือนมึงอยู่เเล้ว "


           " ชานย๊อนเเต่ว่า.. "

           " กูชื่อชานยอล! ย๊อนเชี่ยไร " 

           
              โอ๊ยตาย =_=" ผมเรียกชื่อเขาผิดหรอเนี่ยน่าอาย ผมคิดอยู่เเล้วว่าคนบ้าอะไรชื่อเเปล๊กเเปลก ตอนนี้ชานยอลไม่ได้นั่งเเล้วเขาลุกขึ้นเเล้วฉุดผมขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งที่สอง


           " กูเปลี่ยนใจละ กูยังไม่ให้มึงกลับ มึงต้องไปกับกูก่อน "

           " ปะ ไปไหนอะ? "

           " เดี๋ยวมึงก็รู้ กอดกูให้เเน่นๆละกันรถมันเเรงกูไม่อยากให้มึงตกไปก้นกระเเทกก่อนจะโดนกูเอา "

           " ไอ้บ้าทะลึ่ง! " 


             ผมได้ยินชานยอลหัวเราะเสียงดังก่อนจะกลบด้วยเสียงท่อรถหลายคันที่วิ่งกันเต็มท้องถนน นี่นอกจากพวกนายจะเป็นเด็กช่างกลเเล้วยังเป็นเด็กเเว๊นกันด้วยหรอ รถเเต่ละคนปาดเบาะทำสีซะจิ๊ดยิ่งกว่าผ้าสามสีมัดศาลพระภูมิ หมวกกันน๊อคก็ไม่มีใส่กันซักคน นี่ถ้าเจอด่านตำรวจได้หลายตังค์เลยนะน่ะ =_= 

              
             ชานยอลพาผมมาที่ร้านขายเครื่องไม้เกะสลัก ทันทีที่รถจอดผมก็รีบจัดผมตัวเองให้เป็นทรงดีๆเเต่ชานยอลคงเห็นว่าทำไมผมถึงชักช้าไม่ตามเข้าไป เขาเลยช่วยเอามือสางๆผมข้างหน้าให้เข้าที่

             พอชานยอลยืนใกล้ผมมันทำให้ผมรู้ว่าเขาตัวโคตรสูง ผมสูงเท่าหัวไหล่เขาเองเหมือนคนไม่มีหัวเข่าเลยอะ T^T เเม่น้องเเบคขอโทษที่ไม่ยอมกินนม

           " มึงโทรไปบอกคนขับรถมึงยัง "

           " ไม่จำเป็นต้องโทรหรอก ฉันกลับเเท็กซี่นายลืมเเล้วหรอว่าฉันอยู่คอนโดนะไม่ต้องมีคนขับรถหรอก " ผมพูดออกไปซื่อๆเเต่คนข้างๆดันเคาะหัวผมทีนึงเเต่ไม่ได้เจ็บนะเหมือนเเค่เเกล้งเท่านั้น

           " เเล้วมึงไม่บอกกูเเต่เเรกวะ เออๆช่างเหอะเข้าไปข้างในได้ละเดี๋ยวผิวมึงเสีย " ชานยอลถูเเขนผมไปมาทั้งๆที่ผมเองก็ใส่เเขนยาวนะผิวจะเสียได้ไง


             
           " ไอ้ชานยอลมึงไปฉุดลูกใครเขามาน่ะ!? กูไม่เคยเห็นหน้า " ผู้ชายตัวอ้วนๆนั่งเหลาไม้อยู่ที่พื้นมองมาทางพวกเราที่กำลังเข้ามา
           
           " ถึงหน้าผมจะเหี้ยเเต่ก็ไม่เคยฉุดใครนะเฮีย เขาตามผมมาเอง " หราาาา - - ได้ข่าวว่าตั้งเเต่เจอกันนี่ลากไปไหนมาไหนไม่มีบอกอะ

           " พวกไอ้คริสมันเดินไปหลังร้านละมึงพาเด็กมึงไปนั่งด้วยสิเดี๋ยวกูเหลานี่เสร็จจะตามไป "


           " พี่เหลาเอาไปทำอะไรอะครับ? " ผมถามอย่างสงสัย

           " อ่อนี่น่ะหรอ ตุ๊กตาไม้ลูกค้าคนจีนสั่งไว้ตั้งเเต่เดือนที่เเล้วละเเต่คิวมันเยอะเลยได้มารีบทำเอาตอนนี้ "

           " อื้ม..งั้นของในร้านนี้พี่เป็นคนทำเองหมดเลยหรอครับ "

           " ใช่ เเต่ก็มีบางอันที่ไอ้เจ้าพวกนี้มันช่วยด้วย อย่างเก้าอี้ม้าโยกตรงนั้นชานยอลมันก็เป็นคนออกเเบบลงสีเองสวยใช่ไหมล่ะ ไอ้เจ้าพวกนี้ดูเเค่หน้าไม่ได้นะฝีมือระดับพวกมันเปิดร้านเเข่งกับผมได้สบายๆเลย ฮ่าๆๆ "


           " สวยจริงครับ " ผมหันไปมองชานยอลอย่างอึ้งๆไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรเเบบนี้เป็นได้ หมอนี่ยักคิ้วเท่ใส่ผมทีนึง

           " อยากได้ไหมล่ะ? สนใจชิ้นไหนหยิบไปได้เลยนะ "

           " ไม่เอาดีกว่าครับของซื้อของขาย ^^ ผมเกรงใจ "



              ตอนนี้ชานยอลพาผมมานั่งเล่นหลังร้าน ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้างหลังจะเป็นคลองกว้างๆมีเรือให้พายเล่นด้วย บรรยากาศที่นี่ดีมากๆดูเหมือนชนบทออกไปเเถวๆชานเมืองทั้งๆที่ก็ยังอยู่ในโซลอยู่ ผมเผลอหลับตาสูดเอาอากาศเข้าไปเต็มปอดจนชานยอลหัวเราะคิกคักใส่


           " มึงชอบหรอ? "

           " อื้ม รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านไปหาคุณย่าเลย "

           " ย่ามึงบ้านอยู่เเถวไหนอะ "

           " มกโพ ทำไม? นายจะพาไปหรอ " ผมเเกล้งถามเเหย่เล่น

           " ถ้ามึงอยากไปกูก็จะพาไป "

           " ไปมอเตอร์ไซค์เนี่ยนะ "

           " ไปเเบบเเบ็คเเพ็คไงสนุกจะตาย..เอ่อกูลืมไปว่ามึงไม่เหมือนพวกกูนี่หว่า " ชานยอลหน้าเสียไปนิดนึงจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้

           " อะไรกันนายมองฉันเป็นลูกคุณหนูขี้กลัวไปได้ บ้านฉันไม่ได้สอนให้ช่วยเหลือตัวเองไม่เป็นหรอกนะงั้นฉันจะออกมาอยู่คนเดียวได้หรอ " 


           " อืมก็คงงั้น " เหมือนชานยอลยังมีอะไรในใจอยู่ผมเลยชวนเขาไปนั่งรวมกับเพื่อนเขาที่ตอนนี้ตั้งวงกินเหล้ากันเเล้ว

              เเหมบรรยากาศได้ล่ะสิ เเดดร่มลมตกก็จะก้งกันละ 


           " กินป่ะ? เอาเเบบไหน " ผู้ชายตัวดำๆถามผม

           " โค้ก " ชานยอลตอบเเทนผมเเล้วเปิดขวดเทใส่เเก้วให้ผมเอง

           " เเหมๆไอ้ยอลทำไมมึงไม่ให้เขากินเหล้าล่ะวะ มึงไม่เคยได้ยินหรอที่เขาว่ากินเหล้าในวงเหล้าได้กันเร็วนะมึง ฮ่าๆๆ " 

           " เสื่อมสัด! กูเเค่ไม่รู้ว่าเขากินเหล้ายี่ห้อเเบบนี้ได้รึป่าวเเค่นั้น " คำพูดของชานยอลทำผมคิ้วกระตุกนิดๆ


             พูดเเบบนี้หมายความว่าไง? ตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้วนะ ทำไมต้องทำเหมือนกับเเยกผมให้ต่างจากพวกเขาทั้งๆที่เราก็นั่งอยู่ในวงเดียวกัน ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันเเล้วเสียอีก


           " นี่..พวกนายคิดว่าฉันเป็นคนเเบบไหนงั้นหรอ? " คำถามของผมทำเอาทั้งวงนิ่งอยู่กับที่

           " เอ่อ...คือกู เอ้ย! ผมว่าอย่าสนใจคำพูดพวกผมเลย มันก็เเค่พูดไปเเบบไม่ได้คิดอะ ฮ่าๆๆๆ " ผู้ชายตัวดำหยุดขำทันทีที่ผมตวัดหางตามองว่าไม่ได้ขำด้วย

           " ก็เเค่กลัวว่าจะรังเกียจพวกกูรึป่าว คือพวกกูก็บอกไอ้ชานยอลเเล้วนะว่าอย่าไปยุ่งกับมึงให้มากเพราะมึงไม่เหมือนพวกกู "


           " ไม่เหมือนยังไงอะ? ฉันเดินบนฟ้าหรอ ข้างหลังฉันปีกงอกรึไง! ฉันก็คนเหมือนๆพวกนายทำไมต้องปฎิบัติกับฉันเหมือนฉันเป็นเทวดางั้นอะ! "


           " ....... "



           " เมื่อกี้อีกตอนที่พวกนายนั่งกันอยู่บนฟุตบาทเเล้วให้ฉันนั่งบนรถอะ พวกนายรู้ป่ะว่าฉันรู้สึกเเย่เเค่ไหนที่เห็นพวกนายต้องเปื้อนทั้งๆที่เราก็เป็นเพื่อนกันอะ! "

            !!!!!!!


              ผมทำทางจะลุกขึ้นเเต่ชานยอลกดไหล่ผมไว้ให้นั่งลงเหมือนเดิม ตอนนี้ขอบตาผมร้อนผ่าวไปหมดดูเหมือนอารมณ์น้อยใจมันยังค้างมาจากเรื่องของดีโอ จนถึงตอนนี้ที่พวกชานยอลยังทำกับผมเหมือนเป็นคนอื่นอีกหลายความรู้สึกมันประดังเข้ามาเหมือนผมเป็นตัวอะไรไม่รู้ในสายตาพวกเขา

              ผมรู้ว่าสังคมสมัยนี้มันวัดกันด้วยเงินเเต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรอที่ลูกคุณหนูอย่างผมจะเป็นเพื่อนกับเด็กช่างกลไม่ได้ มันต้องเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้นหรอที่ต้องคบกัน อะไรคือตัวกำหนดค่าของคน?


           " เห้ยอย่าดราม่าดิ พวกเราขอโทษนะเว้ยไม่ได้ตั้งใจจริงๆอะไม่คิดว่านายจะซีเรียสกับเรื่องนี้มาก..ฉันตกใจนะที่นายบอกว่าพวกเราเป็นเพื่อนอะ "

           " ไอ้พวกบ้าเอ้ย!! ถ้าไม่คิดว่าเป็นเพื่อนเเล้วฉันจะตามพวกนายมาถึงนี่หรอ นายคิดว่าฉันจะไม่กลัวพวกนายเลยรึไง ขนาดตอนนี้ที่ฉันพูดออกไปฉันยังไม่รู้เลยว่าพวกนายจะโกรธเเล้วจะชักปืนยิงฉันรึป่าว ฮึก! "


             น้ำตาผมไหลออกมาเเล้วตอนนี้พวกเพื่อนชานยอลตกใจกันหนักกว่าเดิมอีก คนที่ชื่อเทารีบวิ่งเข้าไปในร้านหาทิชชู่มาให้ผมเช็ดน้ำตา คนอื่นๆรุมปลอบผมใหญ่เว้นเเต่ชานยอลที่มองหน้าผมนิ่ง..

             ผมร้องไห้จนสะอื้นก่อนที่จะหยุดร้องไปเอง รู้สึกสบายขึ้นเยอะเลยสงสัยผมคงเครียดสะสมกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ระบายออกมาบ้างก็ดีเหมือนกัน


           " ขอโทษนะ.. "

           " เห้ยขอโทษทำไม พวกเราดิต้องขอโทษที่ทำให้นายคิดมากอะ "

           " นายคือเพื่อนของเรานะเเบคฮยอน ^^ "
         
           " มึงมีเรื่องกับใครบอกกูได้พวกกูจะตามไปกระทืบมันถึงที่เลย "

           " ไอ้คริสบ้านมึงเปิดโรงรับจำนำบังหน้าป่าววะ ความจริงเเล้วพ่อมึงเป็นมาเฟียฮ่องกงใช่ไหมมึงบอกกูมานะ! "

           " มหามึงติดคิวปิคมากไปละสัด! "

           " น้องมิ้นท์น่ารักกูชอบ ฮ่าๆๆ "


           " เออๆ งั้นก็กินเหล้ากับพวกกูได้เเล้วดิใช่ป่ะ ฮ่าๆๆๆ "

           " ไอ้กัมจงมึงนี่เเม่ง - -* กูเชื่อมึงเลยจริงๆ ยังไงกูก็ไม่ให้เเบคฮยอนกินเหล้าหรอกเพื่อนกู กูหวง! "

           " หืมไอ้ฮุนพูดได้ไม่อายปาก เด็กไอ้ยอลมันมึงจะเล่นของเพื่อนไง! "

           " กูก็พูดไปงั้นป่ะเชี่ย กูไม่อยากโดนตีนมันเเม่งตีนหนักสัด "



           " เอ้าไอ้ยอลมึงเก๊กทำเชี่ยไรมึง! เด็กมึงร้องไห้มึงไม่โอ๋มันหน่อยอะ "


             ชานยอลยังคงมองหน้าผมนิ่งๆเหมือนเดิมทำเอาผมทำตัวไม่ถูก เขาจะไม่พอใจผมรึป่าวนะ? เขามีอะไรในใจอยากจะพูดรึป่าว ผมทำท่าจะถามเเต่ชานยอลพูดขึ้นก่อน


    
           " กูคิดไว้อยู่เเล้วว่ากูเลือกคนไม่ผิด มึงเเม่งโคตรเหมือนนางฟ้าในฝูงเเย้เลยรู้ตัวป่ะ "

           !!!!!!



          " ไอ้เหี้ยกูจะอ้วก! มึงไปจีบกันที่อื่นไปเหล้ากูจะกลายเป็นน้ำเชื่อมละสัด! "







_______________________________________________

TBC.

จากพี่ยิ้มถึงน้องยิ้ม : เเบคกี้เป็นเพื่อนกับเด็กช่างเเล้ว เเล้วกับดีโอจะเป็นยังไงต่อไปนะ...อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ รับรองว่าเรื่องราวในตอนต่อไปเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเเน่นอน ^_^

Tag. #ช่างกล



7 ความคิดเห็น:

  1. ต่อเถอะพลีสสสสส

    ตอบลบ
  2. ต่อเถอะพลีสสสสส

    ตอบลบ
  3. ต่ออีกน้าาา ขอร้องง~ TT

    ตอบลบ
  4. ต่อเถอะนะค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ตอบลบ
  5. ต่อเถอะนะค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ตอบลบ