วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

[SF] ♞ Mechanic ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก : Chapter2



MECHANIC : ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก 
__________________________

Pairing : Chanyeol X Baekhyun

Anothor : Princess of smile   

https://www.facebook.com/pages/Princess-of-smile/646251542112404?ref=hl





    " ค่าของคนสมัยนี้วัดกันที่ ชาติกำเนิด ชนชั้น ทรัพย์สินเงินทอง

ยศฐาบรรดาศักดิ์ บารมีที่พ่อเเม่สั่งสมมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน


เเต่หารู้ไม่ว่าพวกนี้มันเเค่ปัจจัยภายนอก

สุดท้ายตายไปเงินก็เเค่กระดาษเเผ่นนึง ที่ถึงเผาตามไปก็เอาไปทำอะไรไม่ได้

มันก็เเค่เศษผงธุลีปลิวว่อนไปกับอากาศให้เคืองตาเล่นเท่านั้น.. "


................................................




     2




           " ตกลงเมื่อวานกลับยังไงอะ นี่ฉันถามนายมาสามรอบเเล้วนะ! "
           " ก็กลับเเท็กซี่ไงบอกมาเป็นรอบที่ร้อยเเล้ว "

           " อย่ามาเวอร์ที่ฉันถามยังไม่ถึงเลยเหอะ - -* "

           " เเล้วจะถามซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบทำไมล่ะ ก็บอกเเล้วว่าเเท็กซี่ๆ "

           " ไม่เชื่อ! นายโกหก! "

            -_-"


           " ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ? " 

           " เมื่อวานพี่ลู่ฮานเห็นว่านายซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ใครไม่รู้ออกมาจากหมู่บ้านฉัน ลักษณะดูไม่น่าคบเท่าไหร่...มันเป็นใคร!? "


           " รู้จักเขาหรอถึงรู้ว่าไม่น่าคบอะ "

           " เเบค!! นี่ฉันกำลังเป็นห่วงนายอยู่นะทำไมนายต้องกลับมาว่าให้ฉันด้วยล่ะ! "

           " ดีโออย่าใช้อารมณ์...การที่นายฟังเรื่องอะไรก็เเล้วเเต่จากคนอื่นมานายก็อย่าพึ่งไปตัดสินคนจากที่เขาเล่า เพียงเเค่เขามาเล่าให้นายฟังว่าคนๆนั้นไม่น่าไว้ใจหรือไม่น่าคบ..อย่างน้อยนายก็ควรจะให้เกียรติคนที่นายไม่รู้จักบ้าง "


           " อืม "

           " ดีโออย่าอารมณ์เสียได้ไหม.. "

           " เเบคฉันว่าเปลี่ยนเรื่องเถอะ "


           " ดีโอ... "

           " มันจะใครก็ช่าง เเต่ตอนนี้นายก็ไม่เป็นอะไรฉันก็โอเค..ไปห้องน้ำก่อนนะถ้าอาจารย์มาไลน์บอกด้วย "


            ให้ตายเถอะทำไมดีโอต้องมาอารมณ์เสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่องด้วยนะ เวลาเพื่อนทำผิดหรือทำไม่ถูกเพื่อนก็มีหน้าที่เตือนเพื่อนไม่ใช่หรอ? เเล้วทำไมกับดีโอผมถึงเตือนอะไรไม่ได้เลย 

            หัวดื้อ รั้นไม่ฟังใครถ้าไม่ติดว่าคบกันมาหลายปีผมทิ้งให้อยู่คนเดียวไปเเล้ว! ไม่ใช่ว่าผมจะปกป้องคนๆนั้นนะ ถึงลักษณะเขาจะดูไม่น่าคบก็จริง เเต่ถ้าดูจากนิสัยเเล้วดีกว่าพวกที่อยู่มหาลัยนี้เยอะ


             มหาลัยผมเรียกว่าจัดอยู่ในย่านไฮโซที่สุดในเมืองนี้ก็ได้ เพราะบริเวณรอบข้างมหาลัยเต็มไปด้วยศูนย์การค้าทั้งในเเละนอกประเทศที่เเข็งกันเปิดผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด ร้านอาหารอิตาเลียนราคาเเพงที่เเค่น้ำเปล่าก็ปาไปเป็นร้อย ห้างร้านเสื้อผ้าเเบรนด์เนมชนิดที่ว่าอิมพอร์ตจากต่างประเทศเข้ามาทุกวันของเปลี่ยนทุกอาทิตย์เเบบล่อลวงให้พวกนักช็อปบ้าเเบรนด์ให้เข้ามาติดหนี้บัตรเครดิตเล่นๆเพราะรูดกันจนเช็คเด้งไปหลายรอบ รวมถึงสถานเริงรมณ์ต่างๆที่พวกดารานักร้องหรือพวกไฮโซลูกท่านเจ้าคุณก็ต่างพากันมาเเฮ็งค์เอาท์มั่วคู่กันที่นี่ 

            ไม่ต้องเเปลกใจถ้ามาเดินเเถวนี้เเล้วเจอดาราบ่อย เพราะมหาลัยนี้รวมคนดังระดับประเทศมาไว้ที่นี่มากมายทั้งรุ่นพี่ซีวอน วงซุปเปอร์จูเนียร์ รุ่นพี่ซูยองรุ่นพี่ซันนี่ วงเกิลล์เจนเนอเรชั่น ที่เเต่ละคนดีกรีเป็นถึงลูกชายลูกสาวมหาเศรษฐี 

             เเละที่นี่ไม่ได้รวมเเต่ดาราดังเท่านั้นนะ ยังรวมไปถึงลูกรัฐมนตรี ลูกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ลูกนายทหารท่านฑูตประจำกงสุลต่างๆมาศึกษาเล่าเรียนกันที่นี่...หรือมาอวดว่าใครรวยกว่ากันก็ไม่รู้ - -* 

จึงไม่เเปลกนักที่คนที่นี่จะชอบดูถูกคน...


            ผมไม่รู้ว่ามันเป็นค่านิยมหรือการปลูกฝังความคิดเเบบผิดๆหรือเป็นเพราะสภาพเเวดล้อมที่ทำให้คนส่วนมากมีพฤติกรรมเเบบนี้

            ดีโอก็เป็นหนึ่งในนั้น...ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากหรอก ดีโอมันก็เพื่อนผมจะว่าอะไรมันได้ล่ะ



            ผ่านมาสองวันจากเหตุการณ์ที่ดีโองอนผมตอนนี้เราดีกันเเล้วโดยการที่ผมต้องเลี้ยงข้าวเขาวันนี้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้คุณหนูตาโตไม่พอใจ เชื่อไหมว่าความจริงเเล้วดีโอมันเเค่อยากหลอกผลาญตังค์ผมเล่น -_-*


           ตอนนี้เรามาอยู่ที่ร้านอาหารไม่ไกลมากจากมอ สไตล์การตกเเต่งร้านนี้เป็นเเบบเรทโทรโมเดริน์นั่งสบายๆชิวๆ ที่ดีโออยากมาตั้งนานเเล้วเเต่ไม่มีโอกาสซักที เราเลือกที่นั่งติดหน้าต่างเพราะดีโอบอกว่าตรงนี้วิวดีจะได้เเอบมองดูรุ่นพี่หน้าตาดีๆที่ชอบมาเดินเเถวนี้ด้วย เจริญ..


         " ชอบบรรยากาศร้านนี้จัง >< ไว้วันหลังเรามากันอีกนะเเบคกี้ " ดีโอพูดฉอเลาะ

         " ก็โอเคอะ ต้องดูรสชาติอาหารอีกที "

         " เเหมร้านอาหารหรูๆเเบบนี้กับข้าวก็ต้องดีด้วยเป็นธรรมดา เชื่อสิว่ารสชาติต้องถูกปากเเบคกี้เเน่นอน ^^ "


           ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะพนักงานเอาเมนูมาให้เลือกเเล้ว ผมสั่งอาหารมาอย่างเดียวกับเครื่องดืมเป็นน้ำพั้นช์ผลไม้อีกหนึ่งเเก้ว นอกนั้นให้เป็นหน้าที่ของดีโอให้เขาเป็นคนเลือกเอง ดีโอสั่งกับข้าวมาอีกสามอย่างเเล้วก็ของกินเล่นอีกอย่างละสอง

           อย่าพึ่งคิดว่าพวกผมมากันสองคนทำไมสั่งเยอะจัง ต้องดูปริมาณอาหารที่พนักงานเอามาเสริฟครับ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นพวกคุณก็คงจะสั่งมาเพิ่มอีก ไม่ใช่ว่ามันอร่อยอะไรหรอกนะรสชาติก็ถือว่าไม่ทรมานลิ้นเท่าไหร่ เเต่อาหารให้มาอย่างน้อยอะ!

...สมเเล้วที่เขาเรียกว่าอาหารผู้ดี กินเเค่พอรู้รส ดมๆให้อิ่มทิพย์ - -"


           เราทานกันไปได้ซักพักก็เหมือนมีเงาของใครมายืนบังเเสงอยู่ตรงหน้าต่างใกล้โต๊ะเรา ผมไม่ทันได้สังเกตอะไรเพราะดีโอสั่งให้ผมเขี่ยหอมหัวใหญ่กับพริกหยวกออกจากจานให้ ก็นะในจานถ้าเขี่ยไอ้ผักตกเเต่งพวกนี้ออกก็เเทบไม่ต้องได้กินอะไรละ -_-'

           เเล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะดีโอร้องเสียงดังจนผมต้องหันกลับไปมองข้างหน้าต่างว่าดีโอเห็นอะไร เเล้วนั่นก็ทำเอาผมทิ้งช้อนกระเเทกลงบนจานอย่างเเรง!

        
           เด็กช่างกลครับ! ไอ้เเก๊งค์เดิมที่ไปนั่งกินข้าวต้มด้วยกันเมื่อหลายวันก่อนกำลังมุงดูพวกเราอยู่ ใช้คำว่ามุงเถอะเพราะตอนนี้คนที่ฉุดผม เอ้ย! คนที่พาผมไปส่งเคาะกระจกเหมือนจะเรียกผมอยู่ด้วย

           ตอนนี้สายตาทุกคู่มองรวมกันที่โต๊ะผมโต๊ะเดียว ดีโอบอกให้ผมรีบไปจ่ายตังค์เเล้วรีบออกจากที่นี่ เเต่เหมือนจะไม่ทันเเล้ว


           ช่างกลในเสื้อช็อปกำลังเดินเข้ามาในร้าน ลูกค้าหลายคนกุลีกุจอออกจากร้านจนวุ่นวายไปหมด ดีโอรีบฉุดเเขนผมเข้าไปในห้องครัวร้านอาหารก่อนนิ้วเรียวจะกดเข้าที่เบอร์ที่ผมพอจะเดาออกว่ากำลังจะโทรหาใคร?


         " โด้ อย่าโทรนะ! "

         " ทำไมล่ะไอ้พวกข้างนอกมันอาจจะเข้ามาปล้นพวกเราก็ได้นะ! ฉันเคยเห็นในหนังก่อนอื่นมันก็จะให้พวกเราไปรวมกันเเล้วก็เรียกให้เอาของมีค่าออกมาทั้งหมด หลังจากนั้นพอมันได้เงินพวกเราเสร็จมันก็จะยิงพวกเราทิ้ง! "

         " นายจะบ้าหรอดูทีวีมากไปป่ะ! หนังพวกนั้นมันไม่ได้สร้างสรรค์เท่าไหร่หรอกนะ เเล้วอีกอย่างนายไม่คิดบ้างหรอว่าคนพวกนั้นอาจจะเข้ามาทานอาหารเหมือนพวกเราก็ได้ "

         " เเบคนายอย่าโลกสวย คนพวกนั้นมันจะมีปัญญามากินร้านเเพงๆเเบบนี้ได้หรอ! ลำพังเงินติดตัวจะถึงร้อยรึป่าวยังไม่รู้เลย! "

         " โด้! เอาอีกเเล้วนะทำไมนายถึงชอบดูถูกคนอื่นจัง เขาก็คนเราก็คนเรามีสิทธิในการใช้ชีวิตเหมือนกันนายอย่าเเบ่งชนชั้นทั้งๆที่ตัวนายก็เดินอยู่ที่พื้นไม่ได้เดินอยู่บนฟ้า! "


         " เเบค!!! " 

         " ฉันจะกลับล่ะ "

         " นะ..นี่ นี่..นายจะออกไปทำไมห๊ะ! นายต้องง้อฉันนะเเบค ฉันกำลังโกรธนายอยู่! " ดีโอทำหน้าตึงใส่ผม เขาจิกเเขนผมอย่างเเรงเหมือนเด็กขัดใจอยากได้ของเล่นเเล้วเเม่ไม่ยอมซื้อให้ 


         ดีโอจะมีอาการเเบบนี้ทุกครั้งที่ผมขัดใจเขา ทนไม่ไหวเเล้วนะ ฉันก็เจ็บเป็นนะโว้ยยยยย!!


         " โด้นายอย่าเลอะเทอะได้ไหม ทำตัวให้เหมือนคนอยู่มหาลัยหน่อยนายไม่ใช่เด็กเเล้วนะ ฉันตามใจนายไม่ได้ทุกเรื่องหรอก วันนี้นายอยากกินร้านนี้ฉันก็พามาเเล้วนี่ไง "

         " ง้อหรอ! เเบคอย่าโง่ได้ป่ะเเบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าง้อหรอก เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปีเเทนที่นายจะรู้เเบบไม่ต้องให้ฉันคอยบอกคอยย้ำนะ ว่าเวลาฉันโกรธนายต้องทำยังไง "

.
.


         " โอเค..ฉันขอโทษ "

         " หึ! ขอโทษ? ขอโทษ! ขอโทษ!! ขอโทษ!! ขอโทษ!!! มันไม่มีคำอื่นที่มันดีกว่านี้เเล้วหรอเเบค นายเอาเเต่พูดคำนี้ให้จบปัญหาทั้งๆที่นายก็รู้ว่ายิ่งนายพูดมันยิ่งทำให้ฉันโกรธนายมากขึ้นอะ! นายเคยใส่ใจอะไรฉันบ้างป่ะเเบคถามหน่อย นายเคยเข้าใจฉันบ้างไหม!? "


         " ..... "


            ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ดีโอโคตรหาเรื่องทะเลาะอะ ผมผิดหรอที่เตือนเพื่อน..มันกลายเป็นผมผิดใช่ไหม? ผมต้องโอ๋เขา อ้อนเขา ตามใจเขาทุกอย่างที่เขาต้องการ เเบบนี้เขาเรียกว่าเพื่อนหรอ? ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมเป็นทาสลองรับอารมณ์เขาล่ะ
           
          " ดีโอ..นายถามว่าฉันเคยใส่ใจ เคยเข้าใจนายบ้างไหม ใช่ไหม?...งั้นฉันขอถามกลับไปว่านายเคยเข้าใจฉันรึป่าว..ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันเป็นอะไรสำหรับนายงั้นหรอ? ฉันตามใจนายทุกอย่าง นายอยากได้อะไรฉันก็ให้ นายอยากกินอะไรฉันก็พาไปกิน ฉันให้นายได้ทุกอย่าง...เเต่นายเคยทำอะไรเพื่อฉันบ้างไหม? "


          !!!!!


          " ฉันไม่ได้จะทวงบุญคุณนายหรอกนะ เเต่สิ่งที่นายทำมันเกินไป...นายไม่มีเหตุผลเเล้วนายก็ไม่เคยฟังเหตุผลของฉันด้วย...เพื่อนมันต้องรับกันได้ทุกเรื่องสิ ถ้าคบกันเเล้วลำบากใจนายจะไปคบคนอื่นที่เหมือนนายก็ได้นะ "


           " เพราะถึงยังไงฉันก็เป็นเเบคฮยอน ไม่ได้เป็นตัวก๊อบปี้ดีโอที่ต้องทำอะไรเหมือนกันทุกอย่าง... " 



            ผมรู้ว่าหลังจากที่ผมเปิดประตูออกไปทุกอย่างจะต้องเลวร้ายลงกว่าเดิม ดีโอเขวี้ยงจานใส่หลังผมอย่างเเรงจนเเตกกระจายเต็มพื้น ผมไม่ได้หันกลับไปมองเพราะถ้าผมหันกลับไปคนที่ไม่จบจะเป็นผมเอง

            ดีโอควรจะไปอยู่กับเพื่อนคนอื่น เพื่อนที่เหมือนกับเขา...ผมเสียใจที่ระเบิดอารมณ์ออกไป เเต่ถ้าผมไม่พูดให้ดีโอรู้สึกตัวบ้าง ผมก็คงเป็นเพื่อนที่เลวน่าดู



          " มึง รอกูด้วย "

          " นายอย่าตามมานะ ฉันไม่สะดวกคุยกับใครทั้งนั้นตอนนี้ " เด็กช่างกลคนนั้นรีบวิ่งเข้าหาตัวผมทันทีที่เขาเห็นหน้าผม 


          ทำคนอื่นเขาเดือดร้อนกันไปหมดยังมีน่ามายิ้มระรื่นได้อีกนะ!


          " ไม่! กูตามหามึงไปทั่วสุดท้ายก็มาเจอมึงที่นี่ กูจะไม่มีทางปล่อยมึงไปอีกเเล้ว! " เขาเอื้อมมือมาจับเเขนผมไว้ เเล้วพาผมเดินมาที่มอเตอร์ไซค์คันเดิม จะพาไปที่ไหนอีกล่ะ! - -*


          " นี่นายฉันบอกว่าวันนี้ฉันไม่สะดวกฟังไม่รู้เรื่องรึไง "

          " มึงอายหรอ "

          " อะไร? "

          " อายที่ต้องอยู่กับกูอะ "

          " ปะ ป่าวนะไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย " ทำไมผมถึงไม่รีบตอบไปว่า ' เอออาย! ' เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก

             เเต่อีกใจนึงผมกลับคิดว่าคนตรงหน้าเป็นคนดี บางทีเขาเเค่อาจจะอยากเป็นเพื่อนกับผมก็ได้..


           " ถ้ามึงลำบากใจก็ไม่เป็นไร กูขอโทษที่รบกวนเวลามึง..เดี๋ยวคนขับรถมึงก็คงมารับใช่ไหม? งั้นกูจะอยู่รอเป็นเพื่อนจนกว่าเขาจะมารับมึงละกัน "

              เขาปัดเบาะรถเเล้วกดไหล่ผมให้นั่งลงก่อนที่เขาจะย้ายตัวเองไปนั่งเเถวๆฟุตบาท เพื่อนๆคนอื่นๆของเขาก็เช่นกัน ผมเห็นดังนั้นเลยจะลงมานั่งกับพวกเขาด้วยเเต่ชานย๊อน (ผมคิดว่าชื่อนี้นะ) ผลักผมไม่ให้นั่งด้วย


           " กูให้มึงนั่งข้างบนสบายๆ มึงจะลงมานั่งกับกูทำไม "

           " ก็ฉันไม่ชอบนั่งสูงกว่าใครอะมันไม่สุภาพ "

           " มึงนั่งข้างบนนั่นเเหละข้างล่างมันเปื้อน "

           " นายก็เปื้อนดิ "

           " ช่างมันตัวกูไม่ได้สะอาดสะอ้านเหมือนมึงอยู่เเล้ว "


           " ชานย๊อนเเต่ว่า.. "

           " กูชื่อชานยอล! ย๊อนเชี่ยไร " 

           
              โอ๊ยตาย =_=" ผมเรียกชื่อเขาผิดหรอเนี่ยน่าอาย ผมคิดอยู่เเล้วว่าคนบ้าอะไรชื่อเเปล๊กเเปลก ตอนนี้ชานยอลไม่ได้นั่งเเล้วเขาลุกขึ้นเเล้วฉุดผมขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งที่สอง


           " กูเปลี่ยนใจละ กูยังไม่ให้มึงกลับ มึงต้องไปกับกูก่อน "

           " ปะ ไปไหนอะ? "

           " เดี๋ยวมึงก็รู้ กอดกูให้เเน่นๆละกันรถมันเเรงกูไม่อยากให้มึงตกไปก้นกระเเทกก่อนจะโดนกูเอา "

           " ไอ้บ้าทะลึ่ง! " 


             ผมได้ยินชานยอลหัวเราะเสียงดังก่อนจะกลบด้วยเสียงท่อรถหลายคันที่วิ่งกันเต็มท้องถนน นี่นอกจากพวกนายจะเป็นเด็กช่างกลเเล้วยังเป็นเด็กเเว๊นกันด้วยหรอ รถเเต่ละคนปาดเบาะทำสีซะจิ๊ดยิ่งกว่าผ้าสามสีมัดศาลพระภูมิ หมวกกันน๊อคก็ไม่มีใส่กันซักคน นี่ถ้าเจอด่านตำรวจได้หลายตังค์เลยนะน่ะ =_= 

              
             ชานยอลพาผมมาที่ร้านขายเครื่องไม้เกะสลัก ทันทีที่รถจอดผมก็รีบจัดผมตัวเองให้เป็นทรงดีๆเเต่ชานยอลคงเห็นว่าทำไมผมถึงชักช้าไม่ตามเข้าไป เขาเลยช่วยเอามือสางๆผมข้างหน้าให้เข้าที่

             พอชานยอลยืนใกล้ผมมันทำให้ผมรู้ว่าเขาตัวโคตรสูง ผมสูงเท่าหัวไหล่เขาเองเหมือนคนไม่มีหัวเข่าเลยอะ T^T เเม่น้องเเบคขอโทษที่ไม่ยอมกินนม

           " มึงโทรไปบอกคนขับรถมึงยัง "

           " ไม่จำเป็นต้องโทรหรอก ฉันกลับเเท็กซี่นายลืมเเล้วหรอว่าฉันอยู่คอนโดนะไม่ต้องมีคนขับรถหรอก " ผมพูดออกไปซื่อๆเเต่คนข้างๆดันเคาะหัวผมทีนึงเเต่ไม่ได้เจ็บนะเหมือนเเค่เเกล้งเท่านั้น

           " เเล้วมึงไม่บอกกูเเต่เเรกวะ เออๆช่างเหอะเข้าไปข้างในได้ละเดี๋ยวผิวมึงเสีย " ชานยอลถูเเขนผมไปมาทั้งๆที่ผมเองก็ใส่เเขนยาวนะผิวจะเสียได้ไง


             
           " ไอ้ชานยอลมึงไปฉุดลูกใครเขามาน่ะ!? กูไม่เคยเห็นหน้า " ผู้ชายตัวอ้วนๆนั่งเหลาไม้อยู่ที่พื้นมองมาทางพวกเราที่กำลังเข้ามา
           
           " ถึงหน้าผมจะเหี้ยเเต่ก็ไม่เคยฉุดใครนะเฮีย เขาตามผมมาเอง " หราาาา - - ได้ข่าวว่าตั้งเเต่เจอกันนี่ลากไปไหนมาไหนไม่มีบอกอะ

           " พวกไอ้คริสมันเดินไปหลังร้านละมึงพาเด็กมึงไปนั่งด้วยสิเดี๋ยวกูเหลานี่เสร็จจะตามไป "


           " พี่เหลาเอาไปทำอะไรอะครับ? " ผมถามอย่างสงสัย

           " อ่อนี่น่ะหรอ ตุ๊กตาไม้ลูกค้าคนจีนสั่งไว้ตั้งเเต่เดือนที่เเล้วละเเต่คิวมันเยอะเลยได้มารีบทำเอาตอนนี้ "

           " อื้ม..งั้นของในร้านนี้พี่เป็นคนทำเองหมดเลยหรอครับ "

           " ใช่ เเต่ก็มีบางอันที่ไอ้เจ้าพวกนี้มันช่วยด้วย อย่างเก้าอี้ม้าโยกตรงนั้นชานยอลมันก็เป็นคนออกเเบบลงสีเองสวยใช่ไหมล่ะ ไอ้เจ้าพวกนี้ดูเเค่หน้าไม่ได้นะฝีมือระดับพวกมันเปิดร้านเเข่งกับผมได้สบายๆเลย ฮ่าๆๆ "


           " สวยจริงครับ " ผมหันไปมองชานยอลอย่างอึ้งๆไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรเเบบนี้เป็นได้ หมอนี่ยักคิ้วเท่ใส่ผมทีนึง

           " อยากได้ไหมล่ะ? สนใจชิ้นไหนหยิบไปได้เลยนะ "

           " ไม่เอาดีกว่าครับของซื้อของขาย ^^ ผมเกรงใจ "



              ตอนนี้ชานยอลพาผมมานั่งเล่นหลังร้าน ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้างหลังจะเป็นคลองกว้างๆมีเรือให้พายเล่นด้วย บรรยากาศที่นี่ดีมากๆดูเหมือนชนบทออกไปเเถวๆชานเมืองทั้งๆที่ก็ยังอยู่ในโซลอยู่ ผมเผลอหลับตาสูดเอาอากาศเข้าไปเต็มปอดจนชานยอลหัวเราะคิกคักใส่


           " มึงชอบหรอ? "

           " อื้ม รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านไปหาคุณย่าเลย "

           " ย่ามึงบ้านอยู่เเถวไหนอะ "

           " มกโพ ทำไม? นายจะพาไปหรอ " ผมเเกล้งถามเเหย่เล่น

           " ถ้ามึงอยากไปกูก็จะพาไป "

           " ไปมอเตอร์ไซค์เนี่ยนะ "

           " ไปเเบบเเบ็คเเพ็คไงสนุกจะตาย..เอ่อกูลืมไปว่ามึงไม่เหมือนพวกกูนี่หว่า " ชานยอลหน้าเสียไปนิดนึงจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้

           " อะไรกันนายมองฉันเป็นลูกคุณหนูขี้กลัวไปได้ บ้านฉันไม่ได้สอนให้ช่วยเหลือตัวเองไม่เป็นหรอกนะงั้นฉันจะออกมาอยู่คนเดียวได้หรอ " 


           " อืมก็คงงั้น " เหมือนชานยอลยังมีอะไรในใจอยู่ผมเลยชวนเขาไปนั่งรวมกับเพื่อนเขาที่ตอนนี้ตั้งวงกินเหล้ากันเเล้ว

              เเหมบรรยากาศได้ล่ะสิ เเดดร่มลมตกก็จะก้งกันละ 


           " กินป่ะ? เอาเเบบไหน " ผู้ชายตัวดำๆถามผม

           " โค้ก " ชานยอลตอบเเทนผมเเล้วเปิดขวดเทใส่เเก้วให้ผมเอง

           " เเหมๆไอ้ยอลทำไมมึงไม่ให้เขากินเหล้าล่ะวะ มึงไม่เคยได้ยินหรอที่เขาว่ากินเหล้าในวงเหล้าได้กันเร็วนะมึง ฮ่าๆๆ " 

           " เสื่อมสัด! กูเเค่ไม่รู้ว่าเขากินเหล้ายี่ห้อเเบบนี้ได้รึป่าวเเค่นั้น " คำพูดของชานยอลทำผมคิ้วกระตุกนิดๆ


             พูดเเบบนี้หมายความว่าไง? ตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้วนะ ทำไมต้องทำเหมือนกับเเยกผมให้ต่างจากพวกเขาทั้งๆที่เราก็นั่งอยู่ในวงเดียวกัน ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันเเล้วเสียอีก


           " นี่..พวกนายคิดว่าฉันเป็นคนเเบบไหนงั้นหรอ? " คำถามของผมทำเอาทั้งวงนิ่งอยู่กับที่

           " เอ่อ...คือกู เอ้ย! ผมว่าอย่าสนใจคำพูดพวกผมเลย มันก็เเค่พูดไปเเบบไม่ได้คิดอะ ฮ่าๆๆๆ " ผู้ชายตัวดำหยุดขำทันทีที่ผมตวัดหางตามองว่าไม่ได้ขำด้วย

           " ก็เเค่กลัวว่าจะรังเกียจพวกกูรึป่าว คือพวกกูก็บอกไอ้ชานยอลเเล้วนะว่าอย่าไปยุ่งกับมึงให้มากเพราะมึงไม่เหมือนพวกกู "


           " ไม่เหมือนยังไงอะ? ฉันเดินบนฟ้าหรอ ข้างหลังฉันปีกงอกรึไง! ฉันก็คนเหมือนๆพวกนายทำไมต้องปฎิบัติกับฉันเหมือนฉันเป็นเทวดางั้นอะ! "


           " ....... "



           " เมื่อกี้อีกตอนที่พวกนายนั่งกันอยู่บนฟุตบาทเเล้วให้ฉันนั่งบนรถอะ พวกนายรู้ป่ะว่าฉันรู้สึกเเย่เเค่ไหนที่เห็นพวกนายต้องเปื้อนทั้งๆที่เราก็เป็นเพื่อนกันอะ! "

            !!!!!!!


              ผมทำทางจะลุกขึ้นเเต่ชานยอลกดไหล่ผมไว้ให้นั่งลงเหมือนเดิม ตอนนี้ขอบตาผมร้อนผ่าวไปหมดดูเหมือนอารมณ์น้อยใจมันยังค้างมาจากเรื่องของดีโอ จนถึงตอนนี้ที่พวกชานยอลยังทำกับผมเหมือนเป็นคนอื่นอีกหลายความรู้สึกมันประดังเข้ามาเหมือนผมเป็นตัวอะไรไม่รู้ในสายตาพวกเขา

              ผมรู้ว่าสังคมสมัยนี้มันวัดกันด้วยเงินเเต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยหรอที่ลูกคุณหนูอย่างผมจะเป็นเพื่อนกับเด็กช่างกลไม่ได้ มันต้องเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้นหรอที่ต้องคบกัน อะไรคือตัวกำหนดค่าของคน?


           " เห้ยอย่าดราม่าดิ พวกเราขอโทษนะเว้ยไม่ได้ตั้งใจจริงๆอะไม่คิดว่านายจะซีเรียสกับเรื่องนี้มาก..ฉันตกใจนะที่นายบอกว่าพวกเราเป็นเพื่อนอะ "

           " ไอ้พวกบ้าเอ้ย!! ถ้าไม่คิดว่าเป็นเพื่อนเเล้วฉันจะตามพวกนายมาถึงนี่หรอ นายคิดว่าฉันจะไม่กลัวพวกนายเลยรึไง ขนาดตอนนี้ที่ฉันพูดออกไปฉันยังไม่รู้เลยว่าพวกนายจะโกรธเเล้วจะชักปืนยิงฉันรึป่าว ฮึก! "


             น้ำตาผมไหลออกมาเเล้วตอนนี้พวกเพื่อนชานยอลตกใจกันหนักกว่าเดิมอีก คนที่ชื่อเทารีบวิ่งเข้าไปในร้านหาทิชชู่มาให้ผมเช็ดน้ำตา คนอื่นๆรุมปลอบผมใหญ่เว้นเเต่ชานยอลที่มองหน้าผมนิ่ง..

             ผมร้องไห้จนสะอื้นก่อนที่จะหยุดร้องไปเอง รู้สึกสบายขึ้นเยอะเลยสงสัยผมคงเครียดสะสมกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ระบายออกมาบ้างก็ดีเหมือนกัน


           " ขอโทษนะ.. "

           " เห้ยขอโทษทำไม พวกเราดิต้องขอโทษที่ทำให้นายคิดมากอะ "

           " นายคือเพื่อนของเรานะเเบคฮยอน ^^ "
         
           " มึงมีเรื่องกับใครบอกกูได้พวกกูจะตามไปกระทืบมันถึงที่เลย "

           " ไอ้คริสบ้านมึงเปิดโรงรับจำนำบังหน้าป่าววะ ความจริงเเล้วพ่อมึงเป็นมาเฟียฮ่องกงใช่ไหมมึงบอกกูมานะ! "

           " มหามึงติดคิวปิคมากไปละสัด! "

           " น้องมิ้นท์น่ารักกูชอบ ฮ่าๆๆ "


           " เออๆ งั้นก็กินเหล้ากับพวกกูได้เเล้วดิใช่ป่ะ ฮ่าๆๆๆ "

           " ไอ้กัมจงมึงนี่เเม่ง - -* กูเชื่อมึงเลยจริงๆ ยังไงกูก็ไม่ให้เเบคฮยอนกินเหล้าหรอกเพื่อนกู กูหวง! "

           " หืมไอ้ฮุนพูดได้ไม่อายปาก เด็กไอ้ยอลมันมึงจะเล่นของเพื่อนไง! "

           " กูก็พูดไปงั้นป่ะเชี่ย กูไม่อยากโดนตีนมันเเม่งตีนหนักสัด "



           " เอ้าไอ้ยอลมึงเก๊กทำเชี่ยไรมึง! เด็กมึงร้องไห้มึงไม่โอ๋มันหน่อยอะ "


             ชานยอลยังคงมองหน้าผมนิ่งๆเหมือนเดิมทำเอาผมทำตัวไม่ถูก เขาจะไม่พอใจผมรึป่าวนะ? เขามีอะไรในใจอยากจะพูดรึป่าว ผมทำท่าจะถามเเต่ชานยอลพูดขึ้นก่อน


    
           " กูคิดไว้อยู่เเล้วว่ากูเลือกคนไม่ผิด มึงเเม่งโคตรเหมือนนางฟ้าในฝูงเเย้เลยรู้ตัวป่ะ "

           !!!!!!



          " ไอ้เหี้ยกูจะอ้วก! มึงไปจีบกันที่อื่นไปเหล้ากูจะกลายเป็นน้ำเชื่อมละสัด! "







_______________________________________________

TBC.

จากพี่ยิ้มถึงน้องยิ้ม : เเบคกี้เป็นเพื่อนกับเด็กช่างเเล้ว เเล้วกับดีโอจะเป็นยังไงต่อไปนะ...อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ รับรองว่าเรื่องราวในตอนต่อไปเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเเน่นอน ^_^

Tag. #ช่างกล



[SF] ♞ Mechanic ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก : Chapter1



MECHANIC : ช่างกลตัวร้ายกับนายน่ารัก
_____________________________________

Pairing : Chanyeol X Baekhyun

Author : Princess of smile

https://www.facebook.com/pages/Princess-of-smile/646251542112404?ref=hl




" กูเรียนช่าง หาได้ไร้การศึกษา

กูพูดจา ตรงไปโลกไม่สวย

กูนักเลง ไม่สนจนหรือรวย

กูจะช่วย เมื่อชาติต้องการกู! "

.......................................




1



          " เเบคกี้จะกลับเเล้วจริงๆน่ะหรอ? ฉันว่านายนอนที่นี่ดีกว่าไหมมันดึกเเล้วอะ จำที่เเม่ฉันบอกคราวก่อนได้ไหมว่าถ้านายมาต้องนอนค้างที่นี่ด้วย " เสียงง้องเเง้งของดีโอทำให้ผมต้องหันกลับมามองอีกครั้ง

          " ทำเเบบนั้นไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเช้า "

          " เเล้วนายจะกลับยังไงให้ฉันออกไปส่งหน้าปากซอยนะ "

          " หยุดเลยโด้! อย่าเเม้เเต่จะคิด..จับหมานายไว้ให้ดีเดี๋ยวหลุดเเล้วจะวิ่งตามไม่ทัน " ผมบุ้ยหน้าไปทางเจ้าคอกเทล โกเด้นขนฟูเพื่อนซี้ของดีโอที่กำลังพันเเข้งพันขาผมไม่ให้ออกจากบ้าน

            
           ดื้อทั้งหมาทั้งคนจริงๆ!


          " ถ้างั้นถึงเเล้วโทรบอกเราด้วยนะเเบคกี้ "

          " โอเค เจอกันที่มหาลัยนะ "


             
           ผมโบกมือบ้ายบายดีโอเล็กน้อยก่อนออกมา ระยะทางจากบ้านดีโอไปปากซอยไม่ได้ไกลเท่าไหร่เเต่ว่าทางเดินค่อนข้างมืด เพราะเมื่อคืนก่อนดีโอบอกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์เเหกโค้งชนเสาไฟฟ้าตรงหน้าหมู่บ้านไฟทางจึงติดๆดับๆ การไฟฟ้ายังไม่ได้เข้ามาทำการเเก้ไขเลย 


           ดีนะที่ผมไม่ได้เป็นคนกลัวผีอะไรมากไม่งั้นคงวิ่งกลับเข้าบ้านดีโอไปเเล้ว ผมหยิบหูฟังขึ้นมาเปิดฟังเพลงดังๆอย่างน้อยก็จะได้ไม่รู้สึกวังเวง


           ในระหว่างที่เดินอยู่คนเดียวผมมีความรู้สึกว่าวันนี้ทางจากบ้านดีโอไปหน้าปากซอยมันยาวเเปลกๆ หรือผมจะถูกผีอำ? บ้าไปเเล้ว!! อย่าคิดๆเเบบนั้นสิ T_T

           ...เเล้วถ้าเกิดผมโดนดักตีหัวขึ้นมาใครมันจะมาช่วยวะมืดก็มืดเปลี่ยวก็เปลี่ยว เเล้วจะคิดทำไม!!!! 



          ผมเดินมาเกือบครึ่งทางเเล้วก็มีรถมอเตอร์ไซค์ประมาณห้าหกคันขับตามหลังผมมาอยู่ เพราะเเสงไฟหน้ารถนั่นทำให้ผมมองเห็นทางมากยิ่งขึ้น เเล้วพวกเขาก็ขับผ่านไป ผมรู้ว่าคนพวกนั้นหันกลับมามองผมเเต่ผมก็เลือกที่จะไม่สบตา


          ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะว่าพวกที่พึ่งขับรถผ่านหน้าผมไปเป็นเด็กช่างกลน่ะสิเเค่เสื้อช็อปก็รู้เเล้ว 


          ผมรีบสาวเท้าอย่างไวถ้าฝังตัวเองลงกับกำเเพงกับเสาไฟฟ้าได้ผมคงทำไปเเล้ว กลัวตายครับนี่พูดเลย =_= เเต่เเล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถที่พึ่งผ่านหน้าผมไปมีคันนึงที่วนรถกลับมาเเล้วดูเหมือนว่ารถคันนั้นจะตรงมาที่ผมด้วย


         " ชิบหายเเล้ว!! " 


          ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากทำเป็นมองหาของตกข้างทาง เเกล้งตายตอนนี้ทันไหมวะ T[]T ลักษณะจะไม่ทัน...


         " เรียกตั้งนานไม่หัน " เรียกทำไมห๊ะเธอ เรารู้จักกันหรอ T T

         " ระ..เรียกทำไมอะ? " ผมทำใจดีสู้เสือทั้งๆที่ยังไม่ได้มองหน้าเขาเลย เอ..วันนี้คนทิ้งขยะไม่ลงถังเยอะจังนะ ช่วยๆคนเก็บขยะบ้างละกัน


          ผมเก็บกล่องนมกับถุงขนมลงถังทำเป็นไม่สนใจว่ามีไอ้บ้านี่ยืนค้ำหัวอยู่ เผลอสิ! มองไปทางอื่นเซ่! เเม่จะวิ่งให้ผ้าซิ้นปลิวเลย!


         " นี่! มึงอะ.. " มันจับไหล่ผมครับ ไม่อยู่เเล้วโว้ย!!! 


          ผมวิ่งสุดชีวิตหวังอย่างเดียวว่าเเถวนี้จะมีรถขับผ่านบ้าง เเต่เปล่าเลยผมลืมนึกไปว่าบ้านดีโอมันเป็นซอยตันเเละเเน่นอนว่าถึงผมจะวิ่งหนีให้ตายยังไงมันก็ตามทัน ก็ดูช่วงขามันดิ! ผมวิ่งไปสามก้าวเท่ากับเก้าเดียวของมัน

          พ่อง!! เเม่น้องเเบคขอโทษที่ตอนเด็กไม่ยอมกินนม T^T


         " เห้ย มึงกลัวกูหรอ? เงยหน้าดิไม่เหนื่อยมั่งไงวิ่งมาตั้งไกล ฮ่าๆๆๆ " เออตลก!

         " นะ..นาย ต..ต้องการ อะไร? " ทั้งเนื้อทั้งตัวที่มีค่าที่สุดก็เเค่ไอโฟนกับไอพอดเท่านั้นเเหละ ตังค์ในกระเป๋าก็มีติดตัวอยู่ 20 บาทเอาไปเล่นเกมส์ก่อนกลับบ้านหมดเเล้ว T T ฮือ..เห็นว่าไม่มีตังค์ก็ปล่อยเค้าไปเถอะนะ..


         " ไม่ต้องสั่นกูไม่ใช่โจร "

         " เเล้วนายจะเอาอะไรล่ะ "

         " นี่ก็พูดเเต่จะเอาๆ ทำไมอยากโดนเอาไง! " ไอ้ทุเรศ!!!

         " ไอ้บ้าพูดอะไรน่าเกลียด! "

         " ฮ่าๆๆๆ ไม่เอาอะไรหรอก " เฮ้อ!! โล่ง

         " งั้นถ้าไม่มีอะไรเเล้วฉันกลับก่อนนะ " ผมไม่อยู่รอให้มันได้พูดต่อก็เดินหน้าออกไปไม่หันกลับ กลัวครับ..กลัวว่าถ้าจ้องตาเเล้วมันจะเดินตามมาอีก


           เเต่เเล้วพอเดินไปได้สองสามก้าวมันก็เรียกผมให้หันกลับไป

               
         " เดี๋ยว " ชัดครับ ชัดเลย ผมพึ่งมองเห็นหน้ามันชัดๆเลยทำให้รู้ว่า


           โคตรหล่อ!!!! ทำไมมันหน้าตาดีจังวะ ผิวขาวธรรมชาติ ตาคมกริบน่าหลงไหล จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากสีซีดเเต่โดยรวมเเล้วคือดีอะ หน้าตาดีมาก -/////-


          " มีอะไรรึป่าวครับ " อืมพูดมีหางเสียงหน่อย ไม่ใช่ว่าผมเห็นเขาหล่อเเล้วยอมนะ เเต่เเค่เเม่สอนให้มีมารยาทกับคนที่พึ่งรู้จักกัน.. (ผมพูดจริงๆ ._.)

          " เดี๋ยวกูพาไปส่งขึ้นเเท็กซี่ " ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ไม่ใช่ว่านายหน้าตาดีเเล้วฉันจะยอมไว้ใจง่ายๆนะ

          " ไม่เป็นไร ไม่รบกวนดีกว่า "

          " หยิ่งหรอ " นั่นไงว่าให้อีก - -*

          " เราไม่ได้หยิ่ง เเค่เกรงใจอะ " 

          " ไม่เป็นไรกูอยากเป็นคนดีบ้าง ^^ " เลือกเป็นคนดีทำไมวันนี้วะ T_T ถามด้วยว่าอยากให้คนดีช่วยไหม



          " ไอ้เชี่ยยอล! มึงจะจีบกันอีกนานไหมกูหิวข้าว!! " เสียงของเพื่อนหมอนี่ดังลั่นซอย ยังไม่ไปไหนกันอีกหรอ!!!

          " เออๆเดี๋ยวกูตามไป " เห้ยๆจะไปก็ไปดิเเล้วจับเเขนผมไว้ทำไม ใครบอกว่าจะไปด้วยหรอ? ไม่เอานะเเบคกี้จะกลับบ้านอ่า T[]T

          " ขึ้นมาจะพาไปกินข้าวก่อนเเล้วส่งกลับบ้าน " 

          " เรากินข้าวเเล้วอะ พวกนายหิวก็ไปกันเลย " 

          " อย่ามาโกหกมึงยังไม่ได้กินข้าว " อ่าวรู้อีก

          " เรากินเเล้วจริงๆ "

          " อย่ามา กินข้าวเเล้วมึงจะตัวเเค่นี้หรอ เร็วๆรีบๆขึ้นมอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่ใช่ใครก็นั่งได้นะ..กูรับเฉพาะคนรู้ใจ " 

             O///////O

            เเล้วฉันไปรู้ใจนายตั้งเเต่เมื่อไหร่ไอ้หล่อเอ้ย! >[]<


          " ขึ้นเร็วไม่คิดตังค์หรอก " คงไม่มีทางเลือกจริงๆไม่งั้นถ้าผมตุกติกหมอนี่อาจจะเรียกเพื่อนมันมารุมตีนผมก็ได้ เคยเห็นในข่าวนะเวลาเด็กช่างกลจะตีกันทีไรชอบเล่นพวก ผมไม่เอาด้วยหรอกเนียนๆไปงั้นเเหละดีเเล้ว


          " นี่! อย่าขับรถเร็วสิเดี๋ยวตำรวจก็จับหรอก " หมอนี่ออกรถเเรงเกือบยกล้ออะครับ ผมรีบจับชายเสื้อช็อปทันทีจนได้ยินเสียงเเควก!!

           ...เอาเเล้วไง!!! T[]T งานหยาบทำเสื้อเข้าพังอีก เเบคเอ้ยไม่ได้กลับบ้านเเน่เเก..


           " หึหึ "

            ผมได้ยินเสียงหมอนี่หัวเราะลอยมาตามลมจนอดจะกระเถิบถอยห่างไม่ได้ ผมเป็นประเภทที่เวลาทำความผิดเเล้วชอบทำลายหลักฐาน อย่างเช่นตอนนี้เสื้อช็อปของหมอนี่ขาดจนเห็นผิวขาวธรรมชาติข้างในผมเลยรีบถอยออกมาเนียนๆว่าตัวเองไม่ได้ทำ ทั้งๆที่เมื่อกี้ฝีมือผมเลย!


           ตอนนี้พวกเรามาอยู่กันที่ร้านข้าวต้มบาทเดียวเเถวๆตลาดเที่ยงคืน ที่ใช้คำว่าพวกก็เพราะว่ามีเพื่อนของหมอนี่มากินด้วย เเต่ละคนหน้าตาดุๆทั้งนั้นจนผมไม่กล้ามองเลยเลือกที่จะนั่งก้มหน้ามองเมนูอย่างเงียบๆ

          " ยอลเด็กมึงไมเงียบจังวะ เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนรสนิยมไปชอบใสๆติ๋มๆเเล้วหรอ ฮ่าๆๆๆ " เเกว่าใครติ๋มห๊ะไอ้ดำหน้าขี้จิ้งจก - -!


             ผมไม่ตอบโต้เเต่เเค่นั่งด่านั่งเเช่งอยู่ในใจ เเต่คนที่นั่งข้างๆผมทนไม่ไหวฝาดงาใส่เพื่อนเสียงดังลั่นร้าน


          " เก็บปากมึงไว้เเดกข้าวไอ้กัมจง! หรือมึงจะไม่กินตอนนี้ก็ได้นะรอกินข้าวต้มตอนงานศพมึงก็ได้เดี๋ยวกูจุดธูปเรียก! "

             เเรง!!!!


          " สงสัยคนนี้เเม่งตัวจริงเว้ยเเตะนิดเเตะหน่อยไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ " คนบ้าอะไรวะโดนด่าไปขนาดนั้นยังหัวเราะได้อีก =_=; เเล้วใครตัวจริงไม่ทราบห๊ะ


             ตลกดีนะทั้งๆที่เมื่อกี้เสียงดังจนเจ้าของร้านเเทบจะเอาไม้ตีเเมงวันไล่อยู่เเล้ว พอเขาเอาอาหารมาเสริฟทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบต่างคนต่างกิน รีบตักใส่ถ้วยของตัวเองไว้ไม่งั้นถ้ามัวเเต่มองโดนเเย่งกินชัวร์เพราะเขากินกันเเบบไม่มีความปรานีเลยจริงๆ - -"

             ผมเองก็ควรจะเริ่มกินได้เเล้วพอหันกลับมาอีกทีก็เห็นว่าในถ้วยมีกับข้าวทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะนี้...คือผมตักไปได้เเค่หมูหวานนะเเล้วพวกนี้มาจากไหน?

            ผมเห็นว่าคนข้างๆกำลังเเกะก้างปลาเเล้วเอามาไว้ในถ้วยเเล้วกำลังจะตักผักผักบุ้งให้อีกจนผมต้องเอามือบังถ้วยไว้


           " พอเเล้วเดี๋ยวคนอื่นเขาไม่ได้กิน นายก็เหมือนกันตักให้ตัวเองบ้างสิในถ้วยนายมีเเต่ข้าวต้มเปล่าไม่กินกับบ้างไง? "

           " ชอบกินเเบบจืดๆ "

           " ใช่หรอ? เอานี่เราตักหมูทอดให้เหลือสองชิ้นสุดท้ายเเล้วนะ " ผมไม่รู้ว่าทำไปทำไม เเต่เห็นหมอนี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยก็อดสงสารไม่ได้

           " มึงเเม่งน่ารักว่ะ ^^ "

           " อะ..อะไรนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไร? " ผมได้ยินที่หมอนี่พูดนะเเต่เเค่ไม่มั่นใจว่าฟังมาถูกรึป่าว เขาไม่ตอบเเต่เเค่ยิ้มมาให้จนผมต้องรีบหลบสายตาไม่งั้นเขาต้องเห็นเเน่ๆว่าตอนนี้ผมหน้าเเดงขนาดไหน


             เเค่อยู่เฉยๆก็ว่าหล่อเเล้วป่ะ อย่ายิ้มได้ไหมคนมันใจไม่ไดี -//////-



            " เอิ๊ก! -..- อิ่มว่ะ " 

            " ทุเรศว่ะมหา! "

            " อย่างน้อยกูก็ไม่เเดกอิ่มเเล้วเเอบตดเหมือนมึงหรอกไอ้กัมจง เมื่อกี้กูได้ยินนะตดเสียงเเอ๊บๆเเบบนี้มีมึงคนเดียว! " 

            " เเล้วกูตดมีกลิ่นป่ะ!? มึงไม่ต้องพูดเลยมหามึงอะตดผ่านขี้เเม่งเหม็นเชี่ย อย่างกูเขาเรียกตดเเบบผู้ดีโว้ย!! "


             นี่พวกนายพูดอะไรกันกลางร้านอาหารเนี้ย!! =_=' พอกินอิ่มก็เริ่มกันเลยนะ บอกเลยว่าอายเเทน!


            " พอๆพวกมึงสองตัวหยุดพูดเรื่องตดเรื่องขี้ได้ละ กูฟังจนปวดขี้ละสัด! "

            " ฮ่าๆๆๆๆ "

            " ไอ้เชี่ยเเต่เเม่งโจ๊กจริงว่ะ มึงอย่าไปทำเเบบนี้ที่ไหนอีกนะ "

            " ถ้ากูจะถ่อยกูก็ถ่อยกับพวกมึงนี่เเหละครับ ฮ่าๆๆ "



            " เห็นนั่งเงียบๆว่าเเต่นายชื่ออะไรอะ? เราชื่อเซฮุนนะ " ผู้ชายหน้ามึนๆเหมือนคนเมากาวทักผมก่อน

            " เอ่อหวัดดี..เราชื่อ เเบคฮยอน พยอนเเบคฮยอน อะ " 

            " ยินดีที่ได้รู้จักนะ "

            " ฉันจะเเนะนำเพื่อนฉันให้รู้จักละกัน ไอ้ถ่อยที่นั่งข้างฉันมันชื่อกัมจง พ่อมันเปิดร้านเหล้าอยู่หลังวิลัยเเต่เเม่มันเป็นประธานอยู่สมาคมต่อต้านเเอลกอฮอล์บริเวณสถานศึกษา ทุกวันนี้มันก็เลยเพี้ยนๆทำตัวมีปัญหาเพราะพ่อเเม่ไม่รักกัน เเม่ไม่ให้พ่อมันเข้าบ้าน "

            " มึงเยอะไปละไอ้สัดฮุน! เเม่ไม่ได้ไม่ให้พ่อเข้าบ้านเว้ยเเต่พ่อเเค่เกรงใจเเม่เลยไม่เข้าบ้านเอง "


             มันต่างกันตรงไหนวะ = ="


            " เออๆถ้ามึงคิดเเบบนั้นเเล้วมึความสุขก็คิดไป...ไอ้คนที่นั่งถัดจากมันชื่อมหา มันเป็นเซียนพระเครื่องอยากเจอผีอยากท้าผีลองดีไปกับมันได้ มันไม่เคยกลัวห่าอะไรหรอก " ผมว่าผมอยู่เฉยๆดีกว่าครับ - -" ปล่อยคุณผีเขามีความสุขในโลกหลังความตายเถอะ ผมไม่อยากไปเบียดเบียนเขา..

            " ไอ้ตาเเพนด้านั่นชื่ออาเทาบ้านเเม่งขายหมั่นโถมันเป็นคนจีน เรื่องชาติตระกูลไม่ต้องรู้หรอกขี้เกียจเล่า รู้เเค่ว่ามันเป็นลูกเจ๊กก็พอ "

            " เเล้วคนที่นั่งข้างอาเทาชื่ออี้ฟานบ้านเปิดโรงรับจำนำไม่มีตังค์ยืมมันได้นะ "

            " เเล้วถ้ายืมไม่คืนกูตามไปยิงไส้เเตกเเน่!! " จ๊ะ ไม่กล้ายืมหรอกจ๊ะ =_=; เเค่หน้าก็ไม่อย่างสุงสิงเเล้วจ๊ะ



            " มึงลืมเเนะนำอีกคนป่ะฮุน " คนที่ชื่ออาเทาบ้านขายหมั่นโถพูด

            " กูให้สิทธิมึงเเนะนำตัวเองคุณ ปาร์คชานยอล "


              - -;

              ป้าบ!!!



            " โอ๊ย! มึงตบหัวกูทำไมไอ้พ่อเเม่ไม่รัก "

            " มึงพูดอีกทีกูตบมึงปากเเตกเเน่!! เเล้วมึงไปบอกชื่อเชี่ยยอลเเล้วมึงจะให้มันเเนะนำตัวอีกทำไม ไอ้ควาย!! 
"
      
            " เอ่อกูลืมตัว ฮ่าๆๆ "



             หลังจากที่พูดคุยเเนะนำตัวกันเรียบร้อยผมก็ไม่รู้ว่าจะเเนะนำทำความรู้จักกันทำไม จะได้เจอกันอีกรอบหรอ? =_= ครั้งเดียวก็เกินพอ คนที่ชื่อชานอะไรนะ?..หมอนี่ที่ฉุดผมมา (ใช้ศัพท์ให้ถูกด้วยเเบค เเกสมยอม!) ก็พาผมกลับบ้าน


            " เรากลับเเท็กซี่ได้จริงๆนะ "

            " ไม่ได้หรอกมันอันตราย "

            " มากับนายก็อันตรายเหมือนกันนั่นเเหละ " เหมือนกับว่าจากที่นั่งกินข้าวกับหมอนี่เมื่อกี้ทำให้ผมมีความกล้าที่จะพูดกับเขามาขึ้น

              
            " บ้านอยู่ไหน "

            " อยู่ต่างจังหวัดอะ " ผมตอบซื่อๆ

            " หมายถึงตอนนี้ดิ นี่มึงกวนตีนกูหรอ! " 

            " ป่าวๆไม่ได้กวน! อยู่คอนโดXX อ่าขับช้าๆหน่อยเด้!!! " ผมรีบตอบจนลิ้นเกือบพันกัน ยิ่งหมอนี่คิดว่าผมกวนตีนเขาอยู่ก็ยิ่งเพิ่มความเร็วไปอีก จะเเกล้งกันไปถึงไหน T^T

            เราพูดคุยเเข่งกับเสียงลมจนมาถึงคอนโดผม


            " จอดนี่เเหละ "

            " ที่นี่หรอ "

            " อื้ม "

            " อยู่กับใคร เเฟน? " 

            " เราอยู่คนเดียว " บอกเขาไปทำไมวะ =_= เกิดมันขึ้นไปฆ่าตัดคอหมกใต้เตียงทำไง

            " วันหลังจะขึ้นไปนั่งเล่นเป็นเพื่อน " นั่นไง! ใครเพื่อน! เเล้วใครจะให้ขึ้นไปนั่งเล่นห๊ะ!

            " เออๆ เราไปก่อนนะขอบคุณที่มาส่ง " ผมยิ้มเเห้งๆไปให้


            " ครับ มึงยิ้มน่ารักนะ " พูดจบเเล้วก็ขับรถออกไปโดนที่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อซักคำ



            " คนบ้า! " ผมพูดคนเดียวก่อนจะยิ้มไม่หุบจนลุงยามทักว่าผมเพี้ยนรึป่าวยิ้มอยู่คนเดียว


            วันนี้มันเเปลกๆนะ หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่มีอะไรเเปลกๆมาให้ผมต้องเจออีก...เเต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าจะเจอผู้ชายที่ชื่อชานย๊อนอีก ใช่ชื่อนี้รึป่าว? (อืมคงใช่) อีกครั้ง



_______________________________________

TBC.

จากพี่ยิ้มถึงน้องยิ้ม : เรื่องนี้เป็นคอมเมดี้เกี่ยวกับหนุ่มช่างกลกับผู้ชายสุดน่ารักลูกคุณหนูอย่างเเบคกี้ ยอลในเรื่องนี้ไม่รวยเหมือนป๋านะคะ เเต่ยอลจะมีมุมที่ทำให้คุณต้องตกหลุมรักผู้ชายห่ามๆเเบบนี้ง่ายๆเเน่นอน (อย่าหลงกันจนถอนตัวไม่ขึ้นล่ะ)

ก่อนจากก็ขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ บางทีไรเตอร์อาจจะอัพช้าหน่อยเพราะว่าติดเรียนเเต่ยังไงก็จะพยายามมาอัพบ่อยๆค่ะ ^_^

Tag. #ช่างกล



Suggestion


ฟิคชั่นนี้
เป็นเรื่อง ชาย x ชาย
ใครรับไม่ได้กดกากบาท [x] มุมด้านขวาบนแล้วออกเลยนะคะ
เพื่อไม่เป็นการรบกวนรีดเดอร์คนอื่นๆ
กรุณาปฎิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ด้วย

 
ขอบคุณคะ ^_^




Short fiction :: CHANBAEK IN ❤ LOVE DIARY ::






คำเตือน! : นิยายเรื่องนี้อาจมีคำพูดหรือเนื้อหารวมทั้งพฤติกรรมบางอย่างของตัวละครที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชน

              ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ( ไรเตอร์ไม่ได้มีเจตนาชี้นำไปในทางไม่ดี เพียงเเต่เป็นงานเขียนที่สื่อเพื่อความบันเทิงเท่านั้น )
              
              *** จึงชี้เเจงมาเพื่อให้ทราบค่ะ ***  ^___^





พี่ยิ้ม - เเต่ง
Princess of smile


hashtag
#อินเลิฟ ชบ